28 ธ.ค. ทุกปีเป็นวัน "พระเจ้าตากสินมหาราช" ขอกล่าวถึงแม่ทัพ #มุสลิม คู่ใจพระองค์ คือ เจ้าพระยาจักรี (หมุด) ซึ่งเป็นเจ้าพระยาจักรีคนแรกสมัยกรุงธนบุรี และอาจจะเรียกได้ว่าเป็น "จักรี" คนสุดท้ายของประวัติศาสตร์ไทย
เจ้าพระยาจักรี (หมุด) มีชื่อจริง มะหะหมุด (มะฮฺมูด) เป็นบุตรขุนลักษมณา (บุญยัง) เชื้อสายสุลต่านสุลัยมานและหม่อมดาว เกิด พ.ศ. 2270 สมัยกรุงศรีอยุธยา ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ต่อมามีบรรดาศักดิ์เป็น หลวงนายศักดิ์นายเวร หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า "หลวงนายศักดิ์"
ก่อนเสียกรุงไม่นาน ท่านได้รับพระบรมราชโองการให้เดินทางไปเก็บเงินค่าส่วยอากรที่หัวเมืองชายทะเลภาคตะวันออก หลวงนายศักดิ์ได้เก็บเงินจากพระยาจันทบุรี 300 ชั่ง พอดีมีข่างกรุงแตกจึงเอาเงินไปฝังไว้ที่วัดจันทร์ พร้อมพรรคพวกชาวจีน 500 คน และนำเงินมามอบให้สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เป็นเงินทุนจัดสร้างเรือรบขึ้นที่จันทบุรี ประกอบกับหลวงนายศักดิ์เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการเดินเรือและต่อเรือ จึงทำให้สามารถสร้างเรือประมาณ 100 ลำ
กองทัพของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีสามารถตีเมืองธนบุรีซึ่งพม่ามอบให้นายทองอินปกครองดูแล เมื่อยึดเมืองได้แล้ว ก็ยกกองทัพไปตีค่ายโพธิ์สามต้นของพม่าซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา กองทัพได้รับชัยชนะ ทำให้กรุงศรีอยุธยากลับคืนสู่อิสรภาพภายในระยะเวลาเพียง 7 เดือนหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา ซึ่งหนึ่งในบรรดาผู้กอบกู้อิสรภาพก็คือ "หลวงนายศักดิ์"
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จขึ้นครองราชย์และทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแห่งใหม่ในปี พ.ศ. 2311 โปรดเกล้าฯ หลวงนายศักดิ์เป็นอัครมหาเสนาบดี มีบรรดาศักดิ์เป็น "เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์" ว่าที่สมุหนายก มีอำนาจหน้าที่ปกครองดูแลหัวเมืองตั้งแต่เหนือสุดจดดินแดนภาคกลางของประเทศ คู่กับ "เจ้าพระยากลาโหม" ดูแลหัวเมืองฝ่ายใต้ การรบที่มีชื่อเสียงของท่านคือ ศึกนครศรีธรรมราชและศึกกัมพูชา
เจ้าพระยาจักรี (หมุด) มีบุตร 3 คน คือ พระยายมราชเกษตราธิบดี (หมัดหรือจุ้ย), พระยาราชวังสัน (หวัง) แม่ทัพเรือ ซึ่งเป็นคุณตาของสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระบรมราชชนนีรัชกาลที่ 3 และคนที่ 3 คือ ลักษมณา ผู้ถูกกองทัพเมืองนครศรีธรรมราชจับตัวไปในคราวที่เจ้าพระยาจักรี (หมุด) ยกทัพไปตีเมืองนครศรีธรรมราชในปี พ.ศ. 2312
ท่านถึงอสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. 2317 โดยในวันฝังศพที่สุสานของมัสยิดต้นสน สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จด้วยพระองค์เองมาร่วมในพิธีฝังศพ และโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินเพิ่มเติมให้แก่มัสยิดเพื่อขยายขอบเขต
และเจ้าพระยาจักรีท่านต่อมาก็คือ รัชกาลที่ 1
มุสลิมไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่านายกรัฐมนตรีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว เช่น
1. เจ้าพระยาบวรราชนายก (เชคอะหมัด) สมัยกรุงศรีอยุธยา
2. เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์ ว่าที่สมุหนายก สมัยกรุงธนบรี
3. พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น